อาหารสมอง หนังสือ คือเป็นการให้อาหารสมองชั้นเลิศจริงหรือ

อาหารสมอง หนังสือ

เป็นความจริงที่ว่า อาหารสมอง หนังสือ มีส่วนสำคัญในชีวิตเรียกได้ว่าเป็น ไอเทมบำรุงสมอง ก็ว่าได้ มีเรื่องเล่าจากสาวน้อยคนหนึ่งที่เธอชอบการอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจแต่เมื่อเข้าสู่วัยทำงานและมีภาระหน้าที่เยอะมากๆ ทำให้ตารางชีวิตของสาวน้อยคนนี้ต้องเปลี่ยนแปลงใหม่หมด ไม่ว่าอย่างไรเธอคิดว่าต้องหาทาง ฝึกสมองซีกขวา แบบด่วนๆ

มันเลยทำให้เวลาที่เคยมีใช้สำหรับอ่านหนังสือกลับน้อยลงไป แต่ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ยังคงจะต้องจัดเวลาการอ่านให้มากขึ้นคืออย่างน้อยน่าจะต้องมีวันละ 1-2 ชั่วโมงซึ่งเธอนั้นตั้งใจไว้ว่าจะต้องเพิ่มพูน ความรู้ด้วยการอ่านหนังสือดีๆ

ไอเทมบำรุงสมอง

อาหารสมอง หนังสือ เป็นการเสริมสร้างสรรค์ปัญญาและ หนังสือเป็นอาหารสมองจริงหรือ

นอกจาก อาหารสมองตอนเช้า การอ่านหนังสือคือ ไอเทมบำรุงสมอง เป็นกิจกรรมสร้างสรรค์ และยังช่วยส่งเสริมความรู้ รวมไปถึงทำให้คนนั้นเริ่มที่จะสร้างศักยภาพทางความคิดและอารมณ์ได้ มีท่านผู้รู้ได้บอกถึงความสำคัญของการอ่านหนังสือว่า เพราะการอ่านหนังสือคือรากฐานของกระบวนการทางความคิด

แถมยังเป็นเครื่องมือในแบบ อาหารสมองของคุณ ที่สำคัญที่ใช้ในการพัฒนาศักยภาพของมนุษย์ และการสร้างวัฒนธรรมการอ่านจำเป็นที่จะต้องเลือกเพื่อให้เกิดพฤติกรรมที่เหมาะสมในแต่ละวัย ดังนั้นทุกคนควรจะเข้าใจเป็นอย่างดีว่าจะต้องพัฒนาอย่างไร ช่วงวัยไหน เราถึงจะสามารถเปิดหน้าต่างแห่งโอกาส ของแต่ละคนออกมาได้นั่นเอง

ยิ่งถ้าได้ปลูกฝังให้กับลูก อย่างเช่นอ่านหนังสือให้เขาฟังก่อนนอนถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะว่าตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่ผ่อนคลาย จะทำให้เด็กๆ เกิดจินตนาการตามได้อย่างง่ายๆ โดยเฉพาะจะช่วยให้พวกเขารู้ว่าสิ่งที่พวกเขาชอบนั้นมันอยู่ในหนังสือที่คุณพ่อคุณแม่อ่านให้ฟังตอนเป็นเด็กนั่นเอง

คุณพ่อคุณแม่ควรจะเห็นโอกาสอันสำคัญนี้ และพยายามที่จะอ่านให้เด็กๆ ฟังทุกวันให้ได้อย่างน้อย 10-15 นาทีเพราะว่าสิ่งนี้จะเป็นการพัฒนาทางด้านไอคิวให้กับเด็กๆ ได้อย่างดีเยี่ยมแน่นอนว่าจะมีความต่างจากเด็กที่ไม่ได้มีใครอ่านให้ฟังอย่างชัดเจน ซึ่งเนื้อหาก็ควรจะเริ่มจากเบาๆ ให้พวกเขารู้สึกถึงความผ่อนคลายและไม่เบื่อ

อาหารสมองของคุณ

หนังสือที่จะมาช่วยให้เกิดการพัฒนาทางด้านสมองเป็นหนังสือ อาหารสมองสำหรับผู้บริหาร

อย่างแรก ควรจะเป็นหนังสือที่ชอบก่อนที่ไม่แน่นะว่าอาจจะเป็นคู่มือการใช้ ตู้เย็น ก็เป็นได้แต่ถ้าหากว่าคุณเป็นคนที่อยู่ในวัยทำงานขึ้นไปแล้ว ก็น่าจะหาหนังสือที่จะเป็นประโยชน์และมีมุมมองของความรู้ แบบเปิดโลกกว้างใหม่ๆ ประมาณว่าสามารถเรียนรู้ได้ทั้งข้อดีและข้อเสียก็จะดีมาก อย่างเช่นอ่านและติดตามผู้ที่ประสบความสำเร็จหรืออ่านความล้มเหลวของผู้อื่นเป็นต้น

และที่สำคัญควรจะมี หนังสืออาหารสมอง เฉลย วางไว้แต่ละจุดของมุมบ้านโดยเฉพาะที่หัวนอน เพื่อจะได้พร้อมหยิบมาอ่านได้ทันที ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำกันนะคะว่าจะมีหนังสือเล่มไหนบ้างที่น่าสนใจค่ะ

1.ไวตามินไบเบิล สำหรับเล่มนี้ผู้เขียนเคยมีมาหลายปีมาก และไม่เคยหยิบมาอ่านเลยเพราะคิดว่าเราไม่ได้มีความรู้ทางด้านการแพทย์ก็เลยไม่ได้สนใจหยิบมาอ่าน แต่เมื่อวันหนึ่ง อ่านทุกเล่มจนจบแล้วและหาเล่มอื่นอ่านไม่ได้ ก็ลองหยิบเจ้าเล่มนี้แหละมาอ่านฆ่าเวลา

ทำให้บอกกับตัวเองว่าทำไมไม่อ่านซะตั้งนานแล้ว เล่มนี้เป็นหนังสือที่มีปากหนามาก และเป็นเล่มแปลของ พญ.ธิดากานต์ จุจิพัฒนกุล เป็นหนังสือที่บอกถึงคุณสมบัติของวิตามินทั้งหลายที่มีอยู่ในตลาด ว่ามีอะไรแบบไหน และควรหามารับประทานอย่างไร มีใครบ้างที่ควรจะรับประทาน หรือมีอาหารประเภทใดบ้างที่ทำให้ร่างกายเราได้วิตามินอยู่แล้วและมีสิ่งใดบ้างที่จะเป็น อาหารสมองของคุณ

แถมยังบอกอีกด้วย กินให้ฉลาด ต้องทำอย่างไรและมีวิตามินตัวไหนบ้างที่รับประทานคู่กันแล้วแทนที่จะให้ผลดีกับส่งผลเสียซะงั้น และบอกเลยว่าหนังเสือเล่มนี้ไม่ได้เหมาะสำหรับผู้ที่อยู่ในวงการสาธารณสุขเท่านั้น แต่มันควรจะเป็นคัมภีร์อาหารเสริมและยาแบบครบวงจร เพราะว่าแต่ละเรื่องแต่ละราวที่อยู่ในหนังสือเล่มนี้ เขามีงานวิจัยรองรับและเป็นภาษาที่คุณหมอใช้เป็นภาษาแบบง่ายๆ อีกด้วยซึ่งส่วนตัวขอยกให้เป็น ไอเทมบำรุงสมอง ชั้นเลิศเลยค่ะ

2.ทำดีแล้วอย่าหวั่นไหว เป็นอีกเรื่องที่กลายเป็นหนังสือขายดียอดฮิต ที่ได้ อมเรศ ศิลาอ่อนเป็นผู้ประพันธ์ขึ้นมา เขาเขียนจากประสบการณ์ทางด้านธุรกิจของเขา ที่ผ่านการทำธุรกิจมาหลายอย่าง แถมยังเคยเป็นผู้บริหารอยู่บริษัทใหญ่อย่างปูนซีเมนต์ไทยมาก่อน

และหลังจากที่ออกมาแล้วก็ยังมาทำธุรกิจอีกหลายอย่าง และสุดท้ายก็ได้เข้ามาทำธุรกิจของครอบครัวคือ เครือเอสแอนด์ดี และจุดประสงค์ของหนังสือเพื่อใช้เป็นการบันทึกประวัติตลอดการทำงานในชีวิตของท่าน ซึ่งท่านตั้งใจไว้ว่าจะเอาไว้สอนลูกหลานเพื่อจะได้ทราบถึงแนวคิดของคนรุ่นเก่าๆอย่างเขา มันจะน่าสนใจขนาดไหน ไปหามาอ่านกันนะคะรับรองว่า เป็นหนังสืออีกเล่มที่ดีมากๆ ค่ะขึ้นแท่นเป็น อาหารบำรุงสมอง ที่ยอดเยี่ยมอีกเล่มเลยทีเดียว

อาหารบำรุงสมอง

3.ศศิวิมล สำหรับหนังสือเล่มนี้เป็นการเขียนโดยศิลปินแห่งชาติ จักรพันธ์ โปษยกฤษณ์ ท่านเป็นนักวาดภาพที่สวยงามอย่างมากและหนังสือเล่มนี้เป็นการรวมเล่ม จากข้อมูลในนิตยสารพลอยแกมเพชร เรื่องราวในหนังสือมีความสนุกเชิงหยิกแกมหยอกและยังเป็นการเขียนแบบให้จบเป็นตอนๆ ไป

ซึ่งการเล่าเรื่องของคนคนหนึ่งในวัย 60 ปี แต่ยังรักษาไว้ซึ่งเอกลักษณ์และประเพณีอันดี มีการเขียนเล่าถึงมุมมองของประเพณีในวัย 60 ปี ที่หลายคนอาจจะเกิดไม่ทันด้วยซ้ำไป เพราะการเล่าเรื่องแบบเชิงลึกเหมือนกับมีคนมานั่งเล่าให้ฟังทำให้มองเห็นภาพของแต่ละคนในแต่ละยุค เป็นอีกเล่มที่เราอยากจะแนะนำค่ะ เพราะจะมีภาพวาดสวยๆ ให้เราชมตลอดทั้งเล่มอีกด้วยค่ะ รับรองได้ว่าอ่านแล้วไม่มีเบื่อแถมติดใจยกให้เป็น อาหารสมองสำหรับผู้บริหาร

อาหารสมอง หนังสือ ถือเป็นเครื่องมือที่ช่วยผ่านคลายและพัฒนาสมอง

เคยมีคำพูดที่ว่า เมื่อเราได้ปลดปล่อยความทุกข์ ความสุขก็จะเกิด เพราะว่าถ้าหากอยู่ในช่วงเวลาของความยากลำบากนั้น ในทุกๆ วินาทีอาจจะมีความเป็นไปได้ที่จะทำผิด พูดผิด หรือเกิดสิ่งผิดพลาดได้ง่ายๆ ทำให้คนคนนั้นทำเรื่องที่หลายคนบอกว่าเป็นความโง่เขลา มันถึงได้รับความนิยมว่าเป็น อาหารสมองสำหรับผู้บริหาร

อาหารสมอง หนังสือกลายเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยผ่อนคลายความทุกข์ของคุณลงไปได้ เพราะเมื่อคุณจดจ่ออยู่กับหนังสือคุณจะได้ความเพลิดเพลิน และลืมเรื่องของความทุกข์ไปสักระยะหนึ่ง ทำให้สมองที่เหนื่อยล้ามากอยู่แล้วมีเวลาได้หยุดพัก และช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดกลายเป็น อาหารสมองของคุณ ได้เป็นอย่างดีอีกด้วยค่ะแต่ถ้าหากใครต้องการอยากจะได้ เฉลย อาหารสมอง brain food 2565 เล่ม 1 เราก็ขอสนับสนุนเลยว่าเป็นหนังสืออีกเล่มที่ต้องมีไว้ค่ะ