ผลเสียจากการกินน้ำตาล

ผลเสียจากการกินน้ำตาล เพราะว่ามันร้ายแรงมาก ๆ จริงหรือ?

ผลเสียจากการกินน้ำตาล มีความเป็นอันตราย และร้ายแรงกว่า ที่คิดจริงหรือ?

ผลเสียจากการกินน้ำตาล ในเวลาหลาย ๆ ปีที่ผ่านมานี้ เรามักจะได้ เห็นว่าทุกภาคส่วน ที่เกี่ยวข้องกัน กับสุขภาพ มักจะได้พูด กันอยู่เสมอ ๆ ว่าน้ำตาลนั้น หรือว่าความหวาน เป็นศัตรูร้าย ที่ไม่ใช่แค่ ความอ้วนอย่างเดียว กันอีกต่อไป แต่เจ้าความหวาน ยังจะทำให้ เกิดอันตราย ต่อสุขภาพอย่างมาก ที่เรียกได้ว่า เป็นภัยร้ายใกล้ตัว ที่ห้ามมองข้าม ไปอย่างเด็ดขาด

จึงคิดว่าหลาย ๆ คนน่าจะมี ความสงสัยว่า ผลเสียจากการกินน้ำตาล นั้นจะมีอันตรายมาก ขนาดนั้นเลยหรือ ขอตอบก่อนว่า ส่วนใหญ่อันตรายค่ะ เพราะว่าร่างกายเรา จะสามารถรับน้ำตาล ได้แบบมีลิมิต เพียงแค่ที่ร่างกายของเรา ต้องการในแต่ละวัน

แล้วแบบนี้ในแต่ละวันควรกิน กี่ ช้อน ชา แต่ว่าส่วนใหญ่ คนทั่วไปนั้น มักจะบริโภคน้ำตาล ที่มากเกินไป จากที่ร่างกายต้องการ ซึ่งปกติแล้ว ร่างกายของคนเรา ก็จะสามารถ รับน้ำตาลได้แค่ 4 – 6 ช้อนชา ต่อ วัน เท่านั้นนะคะ

ผลเสียจากการกินน้ำตาล

ผลเสียจากการกินน้ำตาล ที่ก่อนจะรับประทาน น่าจะต้องรู้ถึง ข้อดี ข้อ เสียของน้ำตาล

ซึ่งแค่เห็นตัวเลข ของการบริโภค น้ำตาลต่อวัน หลายคนก็บอกว่า ดูเหมือนว่ามัน จะเยอะเกินไปแล้วจริง ๆ แต่ว่าเรามักจะ ไม่ทราบว่าอาหาร ที่เรารับประทาน เข้าไปนั้นมันมี จำนวนของน้ำตาล กี่ กรัม หรือว่าเป็นกี่ ชช. ถ้าเรายกตัวอย่าง ว่าในน้ำอัดลม 1 กระป๋องจะมี น้ำตาลอยู่ถึง 9 ชช. แค่เพียงน้ำอัดลม กระป๋องเดียวนั้น ก็มากเกินไปแล้ว

นี่ยังไม่ได้ รวมไปถึงพวก น้ำตาลที่แอบแฝง อยู่ในพวกอาหาร ที่เรารับประทาน ในแต่ละมื้อ อีกด้วยนะคะ และเมื่อไหร่ก็ตาม ที่ร่างกายของเรา ได้รับน้ำตาล ที่มากเกินไป มันก็จะเกิด การสะสมและ ก่อให้เกิดเป็น อันตรายต่อสุขภาพ ในอนาคตได้ เพราะว่าน้ำตาล เป็นบ่อเกิดของ ความเสื่อมของร่างกาย

ตัวอย่างเช่นเด็ก ๆ ที่ชอบรับประทาน พวกของหวานมาก ๆ และก็บ่อย ๆ ซึ่งจะทำให้เกิด ฟันผุได้ง่าย และในเด็กที่ พบว่าได้มี ภาวะของเลือด กำเดาที่ออกมา ง่ายกว่าปกติ แต่ในผู้ใหญ่ ที่บริโภคน้ำตาลเกิน ก็จะทำให้ระดับของ วิตามินบี 1 ถดถอยลงไป

โรคที่เกิดจากการกินหวาน มักจะทำให้ เกิดผลที่ตามมา ที่เห็นก่อนเลย คือจะทำให้ เกิดเป็นโรคเหน็บชาบ่อย ๆ นอกจากนี้แล้ว ผลเสียจากการกินน้ำตาล ยังจะทำให้ เกิดโรคภูมิแพ้ จะทำให้มี นิสัยขี้หงุดหงิด หรือไม่ก็อาจจะเกิด เป็นโรคซึมเศร้าได้ คนที่มีภาวะเช่นนี้ จะทำให้มี อารมณ์แปรปรวน

และจะทำให้นอนไม่หลับ ซึ่งมีหลายคนที่ ได้สงสัยว่า อาการของคน ที่นอนไม่หลับและ นอนดึกผลเสียอย่างไร ทุกท่านก็ทราบ กันดีอยู่แล้ว ว่าถ้าร่างกาย พักผ่อนไม่ได้ จะยิ่งทำให้ ความเสื่อมเพิ่มมากขึ้น เป็นทวีคูณนั่นเองค่ะ

สำหรับคนที่ กินหวาน เยอะ แล้ว เวียนหัว ที่เราสามารถ เห็นได้แบบชัด ๆ เลยก็คือเมื่อ มันได้ไปสะสม อยู่ในร่างกาย จะทำให้มี น้ำหนักที่เกิน แล้วจะเกิดเป็น โรคอ้วนขึ้นมา พ่วงท้ายมาด้วย เลือดเกิดความเหนียวข้น ทำให้เลือดไหลช้าลง

และการไหลเวียน ของโลหิตนั้น คือตัวการสำคัญ ในการส่งสารอาหาร ที่มีความจำเป็น ที่จะต้องนำพาสารอาหาร ไปส่งให้พวกเนื้อเยื่อ ในร่างกายได้ช้าลง จะทำให้เกิด อาการหน้ามืด และเวียนหัวได้

ผลเสียจากการกินน้ำตาล ยังไปทำให้ การซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ของร่างกายนั้น จะเป็นไปได้ยาก เพราะว่ามาจากสาเหตุ ของพวกเส้นเลือดฝอย เกิดการตีบตัน ทำให้เกิดปัญหา ที่ตามมาอีกมากมาย

ซึ่งก็มักจะ เริ่มต้นมาจากการ ป่วย เบาหวาน ความดัน และพาไปถึง โรคหัวใจตีบตัน และถ้าหากว่า อยู่ในภาวะ ขั้นที่รุนแรง ที่ถึงขั้นทำให้ เกิดเป็นอัมพาตได้ง่าย ๆ

อันตราย จากน้ำตาลทราย

แล้วเราจะรู้ ได้อย่างไรว่าเราเป็น Sugar Blues คืออาการคน ที่ติดน้ำตาล

คิดกันได้ง่าย ๆ กันเลยนะคะ ผลเสียจากการกินน้ำตาล คือถ้าหากว่าเมื่อไหร่ที่เรา กินน้ำตาลมาก ไป อาการ ที่จะทำให้ เกิดมีความอยาก ที่จะรับประทาน บรรดาของหวาน ๆ อยู่ตลอดเวลา และยิ่งถ้าหากว่า ไม่ได้กินเข้าไป ก็จะรู้สึกเหมือนว่า มีอาการโหย ๆ และจะหงุดหงิด และพาให้เกิด เป็นซึมเศร้ากันไปเลย

หลายคนที่เคย สงสัยว่าอาการ อยากกินของหวาน เกิดจากอะไร ซึ่งพวกอาการ แบบนี้แหละค่ะ ที่จะเรียกว่า คือการเสพติดน้ำตาล หรือที่เรียกกันว่า Sugar Blues อย่างที่ทำให้ ร่างกายได้รู้สึก ถึงความต้องการ ที่จะโหยหา น้ำตาลตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะแล้ว ถ้าหากสังเกตกันดี ๆ ก็น่าจะเป็น ในช่วงประมาณ 10 นาฬิกาของทุกวัน อีกช่วงเวลาหนึ่ง คือจะประมาณ 15.00 น.

ซึ่งถ้าไม่ได้ รับน้ำตาลเข้าไป ก็จะยิ่งทำให้ เกิดอาการซึม ซึ่งอาการเหล่านี้ มักจะเกิดมา จากภาวะของ น้ำตาลในเลือดต่ำ

และถ้าหากว่า เราไม่ใส่ใจ และปล่อยเอาไว้ ให้ร่างกายนั้น ได้เกิดอาการ แบบนี้ไปเรื่อย ๆ ก็จะทำให้ เกิดผลเสียต่อร่างกาย และจะทำให้ ร่างกายของเรา เสื่อมโทรมกันไป แบบหยุดไม่ได้ คุณก็จะกลายเป็น คนที่มีอารมณ์แปรปรวน ขี้โมโห สมาธิสั้น เป็นภูมิแพ้ และความดันโลหิตต่ำ

เพราะเมื่อความหวาน ที่ได้เข้าไป สู่ร่างกายของเรามาก ๆ จะนำเอาไป สะสมแล้วเก็บไว้ ในรูปแบบของไกลโคเจน แล้วก็ส่งกลับไป ที่กระแสเลือดอีกครั้ง และที่สุดแล้ว คุณก็จะได้ โรคที่เพิ่มคือ มีกรดไขมัน เข้าไปสะสม อยู่ตามจุดต่าง ๆ อย่างเช่นหน้าท้อง ต้นแขนและต้นขา สะโพกพวกนี้ จะก่อเกิดให้เรา มีน้ำหนักเพิ่ม ที่มากขึ้นไปเรื่อย ๆ

และถ้าหากว่า ยังไม่ยอมหยุด นำเอาน้ำตาล เข้าสู่ร่างกาย คราวนี้มันจะไป พอกที่หัวใจ ตับ ไต ซึ่งสิ่งเหล่านี้ จะเป็นบ่อเกิด ให้ร่างกายนั้น ต้องเกิดความเสื่อม และก็มักจะ ได้ตามมาด้วย โรคภัยที่คุณไม่ปรารถนา จะเรียงหน้าเข้ามา หาคุณในแบบที่ จะตั้งตัวกัน ไม่ทันเลยทีเดียวค่ะ

กินน้ำตาลวันละ 100 กรัม

น้ำตาลที่เข้าสู่ ร่างกายยิ่งมาก = เพิ่มไขมันเลว

จากงานวิจัยเกี่ยวกับ สาระน่ารู้สุขภาพ มักจะบอกว่า พวกน้ำตาลและ คลอเรสเตอร์รอล นั้นเป็นเพื่อนกัน เพราะมันเกี่ยวข้องกัน และมีความสัมพันธ์กัน และจากการศึกษา ก็ยังพบอีกว่า คนที่รับประทาน พวกน้ำตาลมาก ๆ จะมีไขมันเลว สะสมไว้มาก แล้วเจ้าไขมันเลว และคลอเรสเตอร์รอล เป็นไขมันที่อันตราย

ผลเสียจากการกินน้ำตาล ในปริมาณที่สูง มันก็จะไป กระตุ้นให้การทำงานของตับ และที่ร้ายแรง คือยังไปยับยั้ง ให้ร่างกายนั้น ไม่สามารถกำจัด คลอเรสเตอร์รอลได้

แล้วถ้าหากว่า เราอยากทราบว่า โทษของน้ำตาล8ข้อ มีอะไรบ้าง และถ้าหากว่า ต้องการจะลด การบริโภคน้ำตาล คงจะต้องไป เริ่มกันที่ข้อใดก่อน และที่คิดว่าง่าย ๆ เลยก็คือรับประทาน ความหวานให้น้อยลง พร้อมทั้งต้องลด การปรุงอาหาร ด้วยพวกน้ำตาล อีกทั้งหลีกเลี่ยง การดื่มน้ำอัดลม หรือพวกน้ำหวาน รวมไปถึงพวก น้ำผลไม้ด้วย และน้ำที่จำเป็น สำหรับร่างกาย คือน้ำเปล่าค่ะ

และถ้าหากว่า ต้องการที่จะ รับประทานผลไม้ ก็ควรจะเลือก ที่มีความหวานน้อย หรือเทียบค่าว่า กินน้ำตาลวันละ 100 กรัม หรือไม่ถ้าใช่ ควรจะหลีกเลี่ยง โดยเฉพาะพวก ผลไม้แปรรูป ทุกชนิดค่ะ รวมถึงผลไม้ดองด้วย

สิ่งสำคัญคือ ควรจะเลือก การรับประทานอาหาร ที่เป็นผักใบเขียว ให้มากยิ่งขึ้น เพราะว่ามันจะไป ช่วยเรื่องของการควบคุม น้ำตาลในเลือด ได้เป็นอย่างดี

เมื่อเราทราบเกี่ยวกับ อันตราย จากน้ำตาลทราย แล้วและถ้าหากว่า ทุกท่านต้องการ มีสุขภาพที่ดี ก็แค่ต้องลด ปริมาณของความหวาน ก็ควรจะหมั่น ตรวจสุขภาพและ ต้องตรวจสอบเลือด อยู่เป็นประจำ ถ้าหากปฏิบัติตัว ตามนี้ได้ดี ก็จะทำให้ คุณได้ห่างไกล จากโรคเสื่อมต่าง ๆ ในร่างกายได้ และคุณจะรู้สึก ได้ถึงการที่ มีสุขภาพดี ขึ้นมาในทันที เลยทีเดียวค่ะ

เรียบเรียงโดย NANAMI

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *