
แบรนด์Lanvin ที่มีความน่าสนใจรอบโลกปี2022 ซึ่งจะมีอะไรให้น่าติดตามกันบ้าง ต้องตามมาดูกันเท่านั้น
แบรนด์Lanvin ซึ่งจะเป็นเรื่องอะไรและน่าสนใจมากแค่ไหน ไม่อยากให้พลาดกันเด็ดขาด
แบรนด์Lanvin เราจะนำคุณไปรู้จักกันกับ แบรนด์เสื้อผ้า สุดคลาสสิคของตลอดกาล ที่ยังคงเสน่ห์และเอกลักษณ์จากอดีต สู่ปัจจุบันนี้ที่พวกมีชื่อว่า Lanvin (ลองแวง) แบรนด์เสื้อผ้า Hi-End ชื่อดังสุดคลาสสิคของฝรั่งเศส ก็อาจจะมีทั้งคนที่รู้จัก และก็มีอีกหลายคน ที่ไม่รู้จักพวกเขากันเลย
ซึ่งหนึ่งในส่วนของคนที่ไม่รู้จัก ก็มีตัวผู้เขียนเองด้วยเช่นกัน ก็เลยได้ไปพบว่าเสื้อผ้าแบรนด์นี้ มีความหรูหราและมีรสนิยม เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงเลยจะนำข้อมูลของ พวกเขานั้นมาแชร์แบ่งปัน ให้ได้รู้จักกันว่ามีที่มา และอดีตที่เริ่มต้นว่าจะ มีความน่าสนใจอย่างไรกันบ้าง ถ้าอยากรู้กันแล้วละก็ งั้นเราตามไปรู้จักกับ พวกเขากันได้เลยกับ น้ำหอม lanvin อ่านว่า Lanvin
ซึ่งจะเป็นเรื่องราวที่มาของ Lanvin แบรนด์ lanvin อ่านว่า หรือที่ภาษาไทยจะอ่านว่า (ลองแวง) ก่อนที่ผู้เขียนจะพาคุณ ไปย้อนอดีตประวัติความเป็นมาต่างๆ และความน่าสนใจในเอกลักษณ์ ที่มีความน่าสนใจกันนั้น เนื่องจากปัจจุบันนี้โรคระบาด Covid-19 ที่มีความรุนแรงและน่ากลัว
จึงอยากจะฝากความห่วงใยนี้ ถึงกับผู้อ่านทุกคนให้ดูแลสุขภาพ กันอย่างเต็มที่และนอกจาก สุขภาพกายที่ต้องให้ความสำคัญแล้ว ในเรื่องของสุขภาพจิตใจ ก็ยังมีความสำคัญอย่างมาก ไม่แตกต่างกันเลยเพราะฉะนั้น ต้องหมั่นดูแลให้มีจิตใจเบิกบาน แจ่มใสกันอยู่เสมอ ต่อให้โลกมันจะเจอเรื่องเครียดอย่างไร ทุกอย่างย่อมมีทางออกเสมอ
เพราะจิตใจที่ดีย่อมนำพาไปสู่สุขภาพที่ดี ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณนั้นท้อหรือเครียดแล้ว ให้เข้ามาอ่านสาระความรู้ ที่น่าสนใจของบทความเราได้เสมอ ซึ่งรับรองเลยว่าจะเป็นเสมือนเพื่อนของคุณ ที่ช่วยให้คุณนั้นคลายจากความเครียดได้แน่นอน เอาละเราจะไปย้อนอดีตความเป็นมาของ Lanvin กันถ้าพร้อมแล้วไปลุยกัน
จุดเริ่มต้นก่อนจะมีแบรนด์ Lanvin (ลาแวง)
เราจะย้อนกลับไปในตอนปี 1889 ถ้าเทียบกับระยะเวลาของบ้านเราก็คือ พ.ศ. 2432 ซึ่งพอเรานับจากวันนี้ย้อนกลับไปก็ 133 ปีมาแล้วสำหรับความเก่าแก่ของพวกเขา จุดเริ่มต้นที่แท้จริงนั้น เริ่มต้นที่ร้านหมวกเล็กๆ ร้านนึงที่ตั้งอยู่ที่ ใจกลางของเมืองหลวงฝรั่งเศส (Paris)
สำหรับผู้ก่อตั้งแบรนด์ที่ชื่อว่า Jeanne Lanvin ซึ่งตอนนั้นตัวของเขาเธอนั้น มีอายุแค่เพียง 22 ปีเท่านั้น ซึ่งพึ่งจะได้เรียนจบมาใหม่หมาดๆ จนได้ออกมาลองเปิดร้านขายหมวกที่แรกในปี 1889 ซึ่งต้องบอกว่าในครั้งแรก เธอได้เริ่มเปิดที่ชั้นบน ของร้านที่อยู่ในตำแหน่งที่ 16 Rue Boissy d’Anglas
ซึ่งจุดที่น่าสนใจของชายที่มีชื่อว่า Jeanne Lanvin เป็นคนที่มีพรสวรรค์บางอย่าง ที่โดดเด่นออกมาตั้งแต่สมัยสาวๆ เหมือนมันกำลังจะบอกว่า ต่อไปว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นตำนานของ 1 ในแบรนด์เสื้อผ้าที่หรูและควาสสิค มาจวบจนปัจจุบันนี้ของเมืองหอไอเฟล (France)
ซึ่งแสงในตัวของเธอนั้น ก็ได้เริ่มฉายแววออกมา ในระยะเวลาประมาณ 4 ปีต่อมาหลังจากที่เธอ ใช้ความพยายามเกี่ยวกับ ร้านหมวกของเธอมาซึ่งนี่ ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ กำลัง จะเปลี่ยนชีวิตของเธอไปตลอดกาล และมันกำลังจะพาเธอไปสู่จุดสูงสุด ในชีวิตของเธออย่างชัดเจนเมื่อ Jeanne Lanvin
เธอนั้นได้รับสัญญาการเช่าเชิงพาณิชย์ที่ Rue Du Faubourg Saint – Honore’ ซึ่งมันมีค่ามีความหมาย ที่เป็นสิ่งทรงเกียรติให้กับ Lanvin เป็นอย่างมากๆนั่นเอง และได้เริ่มทำชื่อร้านแฟชั่นใหม่ โดยนำชื่อของเธอมาใช้ ซึ่งมันก็เหมือนไฟฟ้าแรงสูง ที่ทำให้เธอนั้นแจ้งเกิดฉายแสงที่เจิดจ้าขึ้น
จนชื่อเสียงของเธอนั้น ได้ดึงดูดคนปารีส จำนวนมากมายให้หลั่งไหล ไปเยี่ยมชมแบบไม่ขาดสาย ที่ร้านของเธอที่มีชื่อว่า Lanvin (Mademoiselle Jeanne) สำหรับร้านของเธอนั้น ได้ถูกเรียกกันอีกชื่อว่า “บ้านแฟชั่น” (Fashion House)
การสวมบทบาทความ เป็นแม่ของเธอในปี 1897
ในปี 1897 / พ.ศ. 2440 สำหรับฐานะที่เปลี่ยนไปของ Jeanne Lanvin เมื่อเธอได้ให้กำเนิดลูกสาวขึ้น นั่นก็ทำให้เป็นจุดหักเห ครั้งสำคัญของชีวิตเธอด้วยนั่นเอง ซึ่งเหมือนดั่งสวรรค์ได้ส่ง Marguerite มาเป็นนางฟ้านำโชคให้กับเธอ เมื่อความพันธ์ที่แน่นแฟ้นหว่าง Jeanne / Marguerite ซึ่งความสัมพันธ์ที่ดีมากๆ ระหว่างในฐานของแม่และลูก
จึงทำให้เกิดความรู้สึก ถึงแรงบันดาลใจที่อยากจะ ใช้ผ้าที่มีความหรูหรา เพื่อนำมาสร้างเสื้อผ้าชั้นดี ให้กับสาวน้อยทุกคนได้สวมใส่นั่นเอง
ซึ่งนั่นก็ทำให้ลูกสาวของเธอนั้น เห็นแม่ของเพื่อนเธอ ให้การยอมรับจนได้ มาเป็นลูกค้าที่ บ้านแฟชั่น (Fashion House) ของแม่เธอที่มีชื่อว่า Jeanne Lanvin และต้องบอกเลยว่าธุรกิจที่เกิดจาก แรงบันดาลใจของเธอที่มีต่อลูกสาว
ทำให้เธอได้ขยายกิจการในร้าน โดยที่เพิ่มแผนกเสื้อผ้าเด็กขึ้นมาในปี 1908 และมันทำให้เธอนั้นเกิดการเฟื่องฟูอย่างมากในยุคนั้น และทางด้านของตัวเธอนั้น ( Jeanne Lanvin) ก็ได้ทุ่มทั้งหมดที่เธอมี เพื่อมาลุยเต็มที่กับธุรกิจอันใหม่นี้ของเธอ
แบรนด์Lanvin จุดเปลี่ยนที่ทำให้เธอนั้นกลายมาเป็น Designer ในแบบเต็มตัวในปี 1909
จากธุรกิจเริ่มแรกของเธอ ที่เริ่มต้นด้วยการทำร้านหมวกขี้นมา และเมื่อในประมาณปี 1909 / พ.ศ. 2452 ซึ่งมันทำให้ทางด้านของ Jeanne Lanvin ได้เห็นถึงความชัดเจน ในธุรกิจใหม่ของเธอที่เกี่ยวกับเสื้อผ้าเด็ก มันทำยอดขายและรายได้ที่สูง
และแซงไปไกลมากกว่า ธุรกิจทำหมวกของเธอแล้ว Lanvin จึงได้ตัดสินใจในครั้งสำคัญนี้ว่า มันคงถึงเวลาซักทีแล้วที่บ้านแฟชั่นของเธอ จะได้เริ่มเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงยุคใหม่ ซึ่งเธอนั้นก็ไม่รอช้าเลย ภายในปีเดียวกันนั้นเอง
เธอจึงได้ขยายกิจการของเธอ เพิ่มขึ้นมาอีกด้วยการเพิ่มแผนกใหม่ วัยรุ่นผู้หญิง / สุภาพสตรี ซึ่งในคอนเซปต์ของเธอนั้น ต้องการที่จะทำให้ แม่และลูกสาวทุกคน สามารถมาเดินช็อปปิ้งด้วยกัน อย่างมีความสุขและได้ใช้เวลาที่ดีร่วมกันนั่นเอง
สำหรับสไตล์แฟชั่นในตอนนั้นของ Lanvin ก็มีหลากหลายให้เลือกเช่น ชุดสำหรับใส่ไปตอนกลางวัน / ชุดสำหรับงานราตรี / ชุดเดรสยาว / เสื้อคลุม / ชุดชั้นใน เป็นต้นและดูเหมือนว่าการดีไซน์ของ Lanvin นั้นจะเป็นที่ชื่นชอบหลงใหลอย่างมาก ของชาวเมืองปารีสในตอนนั้น และได้สร้างอิทธิพลไม่น้อย
ทางด้านเสื้อผ้าแฟชั่นของผู้หญิงในยุคนั้น และจุดเปลี่ยนในชีวิตของ Jeanne Lanvin นั้นก็ยังส่งผลให้เธอก้าวขึ้นไปอีก ด้วยความทะเยอะทะยาน และมีความมุ่งมั่นที่สูงมากในงานของเธอ จนมันทำให้เธอนั้นกลายเป็นสมาชิกของ Chambre Syndicale de la Couture (สภาแฟชั่นของปารีส) ซึ่งนี่คือจุดเปลี่ยนที่สำคัญในชีวิตการทำงาน จากในฐานะที่เริ่มต้นเป็นช่างตัดเย็บ มาสู่การเป็นนักออกแบบเต็มตัวเป็นทางการ
ซึ่งนั่นก็ทำให้เธอต้องทำงานหนักขึ้น เพราะว่าเธอนั้นต้องรับบทบาท ของในฐานะแม่คนและนักธุรกิจไปด้วย แต่สิ่งที่ทางด้านของ janne Lanvin แสดงออกมาได้อย่างชัดเจนก็คือ การอยู่แบบเงียบสงบกับลูกสาวของเธอ
ในขณะที่เธอมีชื่อเสียงอย่างมาก และจะต้องข้องเกี่นวกับแวดวงชั้นสูงของปารีส ในยุคสมัยนั้นก็ตามที แต่นั้นกลับทำให้ทางด้าน Jeanne Lanvin ไม่ชอบเข้าไปสุงสิงวุ่นวายกับสังคม ในระดับชนชั้นสูงรวมไปถึงงานสังคมต่างๆ เพราะเธอชอบที่จะอยู่ห่างไกลจากสังคมเหล่านี้มากกว่า
การเฉิดฉายสู่ระดับโลกของ Lanvin
Lanvin สาขา มันเริ่มต้นในปี 1915 เป็นปีที่เธอต้องนำผลงานต่างๆ ออกไปสู่สายตาชาวโลก เพราะว่าปารีสนั้นเล็กเกินไป สำหรับผลงานของเธอไปแล้ว ซึ่งเราจะมาไล่ผลงานของให้เธอให้ดูกัน
1915 - ที่นิทรรศการแห่งชาติซานฟรานซิสโก
1925 - นิทรรศการมัณฑนศิลป์นานาชาติปารีส
1937 - นิทรรศกาลศิลปะ และเทคโนโลยีสมัยใหม่
1939 - นิทรรศกาลโกลเด้นเกต ( อเมริกา)
1945 - The Théâtre De la Mode
เรียบเรียงโดย อลิส