
ประโยชน์การทำสมาธิ ที่จะมีความน่าสนใจอย่างมาก แล้วจะเป็นยังไงกันบ้าง ต้องมาตามดูกัน
ประโยชน์การทำสมาธิ ซึ่งจะมีความน่าสนใจมากน้อยแค่ไหน ต้องมาติดตามกัน
ประโยชน์การทำสมาธิ และเทคนิคในการฝึกสมาธิ ในรูปแบบใดกันบ้าง ที่จะเหมาะสมกับคุณมากที่สุด ประโยชน์การทำสมาธิ การทำสมาธิ (Meditation) ที่แท้จริงนั้น มันคืออะไรกันแน่ หลาย ๆ คนที่หาข้อมูลมากมาย วันนี้อลิสมีคำตอบค่ะ
หรือว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับอะไร สำหรับในการทำสมาธินั้นคือ Technique ที่มาความเก่าแก่ยาวนานถึง 1,000 ปีมาก่อนนั้นแล้ว ซึ่งมันฝึกเพื่อการตระหนักรู้ในสภาวะปัจจุบัน
ซึ่งอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับทางด้านของการเพิ่มสมาธิและความสนใจ เพื่อการเชื่อมต่อกับ ทางด้านร่างกายและลมหายใจ เพื่อเพิ่มพัฒนาการ ทางด้านการยอมรับ ของอารมณ์ตัวเอง ที่มีความยากลำบาก และลงไปจัดการเพื่อเปลี่ยนจิตใต้สำนึกของตัวเอง
ประโยชน์ของการมีสติและสมาธิได้แก่ ซึ่งนั่นก็แสดงให้เห็นแล้วว่า การทำสมาธินั้น (Meditation) มีประโยชน์อย่างมากมาย ทั้งทางร่างกายและจิตใจ หลากหลายอย่างเลย เช่น การลดความเครียด สร้างภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น ปรับคลื่นสมองให้ทำงานดีขึ้น เป็นต้น
ถึงแม้ว่าทางด้านของประเพณีในแบบดั้งเดิมบางที่นั้น จะมีความเกี่ยวข้องกับทางด้าน จิตวิญญาณหลายอย่าง ซึ่งก็รวมไปถึงเรื่องของสมาธิด้วย เป็นส่วนนึงในคำสอนและการปฏิบัติ แต่เทคนิคนี้นั้น
ก็ไม่ได้หมายความถึงว่า เป็นส่วนนึงของศาสนาเสมอไป ถึงแม้ว่าจะมีต้นกำเนิดที่มีความโบราณเก่าแก่แต่ในทุกวันนี้นั้น ก็ยังคงมีการฝึกฝนในวัฒนธรรมทั่วโลก
เพื่อสร้างความสงบ และรวมไปถึงในด้าน ความสามัคคีของกายและใจ ซึ่งการทำสมาธินั้นมีส่วนสำคัญ ในการปรับลดความเครียดของการเผชิญหน้ากับปัญหาต่าง ๆ ในแต่ละวัน หรือช่วย ประโยชน์ของสมาธิกับการเรียน
รวมไปถึงความวุ่นวายจาก สังคมภายนอกได้อย่างดี การทำสมาธิไม่มีแบบไหนถูกหรือผิด แต่ที่จริงแล้วคุณควรหา การฝึกสมาธิที่เหมาะกับ ตัวของคุณเองจะดีที่สุด และยังเกิดประสิทธิ์สูงสุดอีกด้วย
การทำสมาธิที่นิยม จะมีแบบไหนกันบ้าง
– การทำสมาธิแบบ มีสติสัมปชัญญะ
– การทำสมาธิ แบบมีการเคลื่อนไหว
– การทำสมาธิ ด้วยการสวดมนต์
– การทำสมาธิ เพื่อการหลุดพ้น
– การทำสมาธิ เพื่อความผ่อนคลาย
– การทำสมาธิ เพื่อให้เกิดความรักและเมตตา
– การทำสมาธิ ด้วยการจำภาพ
– การทำสมาธิ เพื่อเข้าถึงจิตวิญญาณ
– การทำสมาธิ เพื่อรู้จักตัวเอง
ประโยชน์การทำสมาธิ แต่จะต้องบอกก่อนว่า ไม่ใช่ว่าจะเหมาะกับคุณทั้งหมด การฝึกสมาธิที่แท้จริง
ต้องหาที่รู้สึกถูกกับนิสัยของคุณเอง ซึ่งได้มีผู้ที่มีความรู้ที่ชื่อว่า Mira Dessy ได้กล่าวเอาไว้ว่า เมื่อคุณฝึกอันไหนแล้วสบาย อันนั้นแนะนำว่า ให้ฝึกฝนต่อได้ทันที
– การทำสมาธิ แบบมีสติรู้ตัว
ซึ่งถ้าศาสนาพุทธจะเรียกว่า การฝึกสมาธิแบบ เจริญสตินั่นเอง และรูปแบบนี้ได้รับความนิยม เป็นอย่างมากโดยเฉพาะคนไทย และรวมไปถึงชาวตะวันตก
ในการฝึกสมาธิ เพื่อการเจริญสตินั้น คุณได้ให้ความสำคัญกับความคิดของคุณ ในขณะที่มันผ่านเข้ามาในจิต ซึ่งคุณนั้นไม่ต้องสนใจ เพียงแค่ให้จิตเกิดการรับรู้เฉย ๆ เท่านั้น
แล้วปล่อยสิ่งที่รับรู้นั้น ออกไปจากจิตของคุณ การปฏิบัตินี้รวมกับสมาธิและผสานเข้ากับ การรับรู้ของตัวเอง ซึ่งคุณอาจจะพบว่า
การจดจ่อกับวัตถุ หรือลมหายใจของคุณนั้น เป็นประโยชน์ในแบบใดเช่น ความรู้สึก ความคิด อารมณ์ต่าง ๆ ที่เข้ามา ผ่านร่างกายของคุณถึงจิตใจด้วยนั่นเอง
– การทำสมาธิจิตวิญญาณ
การฝึกสมาธิในรูปแบบนี้ ใช้ในเกือบทุกศาสนา และรวมไปถึงประเพณี ในทางด้านของจิตวิญญาณ ประเภทของการทำสมาธิ นั้นมีความหลากหลาย พอ ๆ กันกับประเพณีทางจิตวิญญาณของโลก
เทคนิคการทำสมาธิ ในหลายอย่างที่ระบุไว้ ซึ่งในความหมายโดยรวม ก็คือการทำสมาธิ ทางด้านของจิตวิญญาณ แหล่งศึกษาที่เชื่อถือได้ปี 2560 ได้มีการระบุไว้ว่า การทำสมาธิทางจิตวิญญาณ มุ่งเน้นไปการที่พัฒนาความเข้าใจ
ที่มีการลึกซึ้งยิ่งขึ้น การนั่งสมาธิ ได้บุญอย่างไร เกี่ยวกับความหมาย ของทางจิตวิญญาณ ศาสนา การเชื่อมโยงกับ พลังงานที่สูงกว่า เช่น การสวดมนต์ครุ่นคิดของทางคริสเตียน Sufi dhikr (การรำลึกถึงพระเจ้า)
การปฏิบัติธรรมของชาวยิว การทำสมาธิทางจิตวิญญาณสามารถทำได้จากที่บ้าน หรือที่สักการะ การปฏิบัตินี้นั้นจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่แสวงหาการ เติบโตขึ้นทางฝ่ายวิญญาณ และเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้ง กับพลังอำนาจหรือพลังวิญญาณที่มีความสูงกว่า
– การตั้งสมาธิ
การทำสมาธิแบบ เน้นสมาธิซึ่งมีความเกี่ยวข้อง กับการจดจ่อโดยใช้ ประสาทสัมผัสทั้งห้า ตัวอย่างเช่น คุณสามารถจดจ่อ กับบางสิ่งที่อยู่ภายในอย่าง ลมหายใจ อิทธิภายนอกร่างกาย เพื่อเป็นการช่วยดึง ให้เกิดกำลังสมาธิมากขึ้น
สิ่งที่จะช่วยในการ ทำสมาธิมากขึ้นได้แก่
– การนับประคำ
– ฟังเสียงฆ้อง
– จ้องมองที่เปลวเทียน (กสินไฟ)
– นับดูลมหายใจเข้าออก
– มองพระจันทร์
– ฟังเสียงลมพัดต้นไม้
– ฟังเสียงนกร้อง
– ฟังเสียงของน้ำตก
สำหรับในการปฏิบัตินี้ อาจรู้สึกเหมือนง่าย ถ้าในตามหลักทฤษฎี แต่มันอาจจะเป็นเรื่องยาก สำหรับผู้ที่เริ่มต้นที่จะรักษา โฟกัสเอาไว้ได้นาน 2-3 นาที
ในตอนแรกเริ่ม หากว่าจิตใจของคุณ ไม่ล่องลอยไปซะก่อน ให้กลับมาที่ปฏิบัติ และตั้งสมาธิใหม่ ซึ่งสำหรับการฝึกอันนี้ จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการเพิ่มการโฟกัสที่จิตมากขึ้น และต้องการไปสู่ระดับสมาธิ ที่สูงมากขึ้นนั่นเอง
– การทำสมาธิด้วย การเคลื่อนไหวร่างกาย
ถึงแม้ว่าคนส่วนใหญ่ จะนึกถึงทางด้าน โยคะแต่เมื่อได้ยินว่า การทำสมาธิจากการเคลื่อนไหว การฝีกนี้อาจรวมไปถึง
– การเดิน
– การทำสวน
– ชี่กง
– ไท้เก๊ก
– รูปแบบการเคลื่อนไหวอื่น ๆ
นี่คือการทำสมาธิ รูปแบบนึงที่นำการ เคลื่อนไหวจะพาคุณไป สู่การเชื่อมต่อกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่มีความลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น กับทางด้านร่างกาย และช่วงเวลาปัจจุบัน
การทำสมาธิแบบเคลื่อนไหวนั้น เป็นสิ่งที่ดีสำหรับผู้ที่พบความสงบในการดำเนินการ และต้องการพัฒนาจิตสำนึกของร่างกาย
– การทำสมาธิมนต์
การทำสมาธิมนตรา มีความโดดเด่น ในทางคำสอนมากมาย รวมไปถึงทางด้าน ประเพณีของฮินดู และศาสนาพุทธด้วย การทำสมาธิโดยใช้เสียงนั้น เป็นการท่องสรรเสริญมนตรา
ที่ทำซ้ำไปซ้ำมาจนเกิดสมาธิ ประโยชน์ของการนั่งสมาธิอย่างมีสติ และรวมไปถึงความซาบซึ้ง จากความศรัทธานั้น ซึ่งคุณจะได้รับการตื่นตัว และเข้ากับสภาพแวดล้อม
สิ่งนี้ช่วยให้คุณนั้นได้ ประโยชน์ของการฝึกสติ มีการสัมผัสกับระดับในการเรียนรู้ ที่มีความลึกซึ้งมากขึ้น มนต์ของคุณนั้น (Mantra) สามารถจะเปล่งเสียงดัง หรือ สวดอยู่ในใจก็ได้
หลังจากที่สวดมนต์เสร็จสักพักคุณจะเริ่มรู้สึกตื่นตัว และเข้ากันกับสภาพแวดล้อมมากขึ้น สิ่งนี้จะช่วยให้คุณได้สัมผัส กับทางด้านการเรียนรู้ ที่มีความลึกซึ้งยิ่งขึ้น
– การทำสมาธิเพื่อการหลุดพ้น
ซึ่งในการทำสมาธิ ประเภทนี้นั้นเป็น การทำสมาธิที่ได้รับการศึกษา จำนวนมากในชุมชนวิทยาศาสตร์ TM มีการก่อตั้งขึ้นจาก Maharishi Mahesh Yogi
และหมายถึงการปฏิบัติ เฉพาะที่ออกแบบมาเพื่อ ทำจิตใจสงบและ ทำให้เกิดความสงบ มันเกี่ยวข้องกับการ ใช้มนต์และได้รับการสอนที่ดีที่สุด โดยสถาบันจากทาง TM ที่รับรองด้วยผู้เชี่ยวชาญ
สำหรับการปฏิบัตินี้ ประโยชน์ของการนั่งสมาธิ pantip เหมาะกับทางด้านผู้ที่ต้องการแนวทาง ที่ต้องการเข้าถึงในระดับความลึก ที่เวลาทำสมาธิอยู่เสมอ
สุดท้ายนี้..อลิสก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ชอบในการนั่งสมาธิค่ะ ผลของการนั่งสมาธิทุกวัน เพราะมีความรู้สึกว่าเรานั้นมีการเปลี่ยนแปลงเรื่อย ๆ ไปในทิศทางที่เป็นบวก
อย่างเช่น เรารู้สึกใจเย็นมากขึ้น มีสติมากขึ้น รู้จักรับฟังสิ่งต่าง ๆ มากขึ้น ซึ่งถ้าหากวันไหนที่อลิสมีเวลาว่างก็จะนั่งสมาธิช่วงสั้น ๆ เพื่อฟื้นฟูและบำบัดจิตใจค่ะ
หากเพื่อน ๆ คนไหนที่เหนื่อยล้าจากสังคม หรือการทำงานก็หันลองมานั่งสมาธิกันดูนะคะ อลิสว่าดีเลยทีเดียว แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้านะคะ
เรียบเรียงโดย อลิส