ธรรมชาติเอาคืน ธรรมชาติทําร้ายคน หรือ คนทําลายธรรมชาติ ?

ธรรมชาติเอาคืน

ธรรมชาติเอาคืน เมื่อธรรมชาติเรียกคืนทุกสิ่ง ก็ไม่มีอะไรหยุดยั้งได้ !

ธรรมชาติเอาคืน เมื่อมนุษย์ ได้พยายามเอาชนะธรรมชาติ ด้วยการทำลายธรรมชาติ ใช้ทรัพยากรธรรมชาติ อย่างสิ้นเปลือง เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง เพื่อสร้างความเจริญ และเพื่อความสะดวกสบาย ของมนุษย์  
การที่เรามองเห็น ธรรมชาติ คือ สิ่ง สำคัญ ของ ชีวิต และใช้ทรัพยากรธรรมชาติ อย่างฟุ้มเฟือย นำไปสู่การทำลายล้าง ระบบนิเวศของธรรมชาติ และสัตว์ ส่งผลกระทบไปยัง สิ่งแวดล้อม เมื่อธรรมชาติรับไม่ได้ จึงมีการเอาคืน หนักหนาสาหัสเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับสภาวะภูมิประเทศ

และสุดท้าย มนุษย์ก็ได้รับผลกระทบ จากการกระทำของตัวเอง การตัดไม้ ทำลายป่า ทำให้โลกร้อนขึ้น ทำให้ธรรมชาติเสื่อมโทรม ทำให้เกิดภัยพิบัติต่าง ๆ นา ๆ มากมาย เมื่อไม่มีต้นไม้ช่วยต้าน แรงลม แรงน้ำ จึงเกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง

ธรรมชาติเอาคืน อย่างสาสม 

ธรรมชาติเอาคืน “ ภาวะโลกร้อน ”คำนี้ เป็นคำที่ติดหูทุกคน และทุกคนได้รับผลกระทบอย่างเห็นได้ชัด ด้วยสภาวะอากาศ ที่ร้อนขึ้นทุก ๆ ปี แต่นั้นเป็นแค่ สัญญาณเตือนเพียงเล็กน้อย จากธรรมชาติ

และยังมีภัยพิบัติอีกมากมาย ที่ตอกย่ำให้เห็นว่า หาก เรา ทํา ลาย ธรรมชาติ ธรรมชาติก็จะ ทํา ลาย เรา ผลกระทบ จากการทำร้ายธรรมชาติ อย่างเช่น ไฟไหม้ป่าไม้ น้ำท่วม ซึนามิ
ภูเขาไฟระเบิด มีให้เห็นอยู่เนือง ๆ

ไฟไหม้ป่าไม้

ไฟไหม้ป่าไม้ คือ ภัยพิบัติชนิดหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อชีวิต ทั้งคนและสัตว์ ไฟที่เผาไหม้ในป่าไม่สามารถควบคุมได้โดยง่าย แบ่งสาเหตุออกได้เป็น 2 รูปแบบใหญ่ ๆ ด้วยกัน คือ

สาเหตุที่เกิดจากมนุษย์ มีทั้งเกิดจากความประมาท และตั้งใจของมนุษย์ที่ใช้ วิถีชีวิต กับธรรมชาติ เช่น ก้นบุหรี่ที่ดับไม่สนิท กองไฟที่ดับไม่สนิท การตั้งใจวางเพลิงเพื่อล่าสัตว์ การเผาเพื่อทำการเกษตร ฯลฯ

สาเหตุตามธรรมชาติ การเกิดสภาวะอากาศแห้ง และร้อนจัด ใบไม้ กิ่งไม้เกิดการเสียดสีกัน ทำให้เกิดการลุกไหม้ด้วยตัวเองใน หรือจะเป็นการเกิดฟ้าผ่า หรือผลกระทบต่อเนื่องจาก ภูเขาไฟระเบิด

ไฟไหม้ป่าแต่ละครั้ง สามารถลุกลาม กินวงกว้างไปได้อีกหลายร้อยตารางกิโลเมตร ความร้อนจากไฟจะเผาไหม้ทุกสิ่งอย่าง และแผ่ขยายออกไปรอบทิศทาง ทำให้อุณหภูมิในบริเวณดังกล่าวสูงขึ้น จนทำให้สิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้เคียงสามารถลุกติดไฟได้เอง แม้ว่าเปลวไฟจะยังลามมาไม่ถึงก็ตาม

และภาวะโลกร้อน ทำให้สภาวะอากาศทั่วทั้งโลกแปรปรวนขึ้นทุกวัน โดยอย่างยิ่งในอากาศในฤดูร้อน ที่ร้องขึ้น ร้อนขึ้น ทุก ๆ ปี แถมยังยาวนานกว่าปกติ และความแห้งแล้งเพิ่มมากขึ้น สภาวะอากาศเช่นนี้เป็นตัวกระตุ้นชั้นดีให้เกิดไฟป่า ลุกลามจนยากที่จะควบคุม

ไฟใหม้ป่า ที่บ้านเราจะพบบ่อยทาง ภาคเหนือ ซึ่งระยะหลัง เกิดขึ้นแถบทุกปี สงผลเสียทั้งทางด้านสภาวะ อากาศ สภาวะสิ่งแวดล้อม ทั้งสัตว์ และมนุษย์ก็ได้รับผลกระทบ

สัตว์ และมนุษย์ ต้องตายจากการถูกไฟคลอก ต้องไร้ที่อยู่อาศัย ขาดแคลนอาหาร แถมส่งผลเสียกับสภาพอากาศ ที่เป็นพิษ ก่อให้เกิดผลกระทบ ตั้งแต่ใต้พื้นดิน จนถึงชั้นบรรยากาศไม่เพียงแค่ ส่งผลกระทบต่อ สภาพภูมิอากาศ ยังส่งผลกระทบต่อ ระบบนิเวศ ผลกระทบต่อ สภาพทางภูมิศาสตร์ และผลกระทบอื่นๆ อีกมากมาย

ธรรมชาติเอาคืน

น้ำท่วม

ภาพในทุกวันนี้ ยิ่งดู ยิ่งทำให้รู้สึกเหมือน เราอยู่ในเมือง บาดาล ขึ้นทุกที ที่อยู่อาศัยของคน ได้จมลงใต้น้ำ สร้างความเสียหายทั้ง ทรัพสิน และชีวิต

เมื่อไฟไหม้ป่า ก็ทำให้ไม่มีผืนป่า เมื่อไม่มีผืนป่าช่วยดูดซับน้ำ ฝนไม่ตกตามฤดูการ เกิดภายุฝน ทำให้เกิดน้ำท่วม

อุทกภัยคือ ภัยและอันตราย ที่เกิดจากสภาวะน้ำท่วม หรือน้ำท่วมฉับพลัน มีสาเหตุมาจากการเกิดฝนตกหนัก หรือฝนต่อเนื่องเป็นเวลานาน หรือน้ำป่าไหลหลาก

เหตุที่ทำให้เกิดอุทกภัย อาจเกิดจาก การอุดตัน ของระบบระบายน้ำ หรือแม้แต่ การสร้างสิ่งก่อสร้างกั้นทางน้ำ หรือทับแหล่งพักน้ำ เมื่อฝนตกหนักจาก หย่อมความกดอากาศต่ำ พายุหมุนเขตร้อน พายุดีเปรสชั่น พายุโซนร้อน พายุใต้ฝุ่น ร่องมรสุม หรือร่องความกดอากาศต่ำ ลมมรสุม ตะวันตกเฉียงใต้ ลมมรสุม ตะวันออกเฉียงเหนือ ก็จะเกิดน้ำท่วม หรือแม้แต่ เขื่อนพัง ก็เช่นกัน

น้ำป่าไหลหลาก หรือน้ำท่วมฉับพลัน มักจะเกิดขึ้นในบริเวณใกล้ภูเขา เมื่อฝนตกหนักนาน ๆ ในบริเวณเหนือภูเขา จนทำให้น้ำไหลบ่าลงสู่ที่เบื้องล่างอย่างรวดเร็ว มีอำนาจทำลายร้าง รุนแรง ที่ทำให้บ้านเรือนพังทลาย เสียหาย และอาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้

ธรรมชาติเอาคืน

คลื่นสึนามิ

คลื่นสึนามิ คือคลื่นขนาดใหญ่ทีพัดถาโถมเข้าใส่ชายฝั่ง อย่างรุนแรงก่อให้เกิดความเสียหาย มากมายมหาศาล ที่เกิดขึ้นใน มหาสมุทร หรือทะเลสาบขนาดใหญ่ เกิดจากแผ่นดินไหว หรือการปะทุ ของภูเขาไฟ และการระเบิดใต้น้ำอื่น ๆ การถล่มของธารน้ำแข็ง อุกกาบาตตก และการรบกวนอื่น ไม่ว่าเหนือหรือใต้น้ำ ล้วนอาจก่อให้เกิดเป็นคลื่นสึนามิได้

คลื่นสึนามิ นั้นไม่เหมือนกับคลื่นทะเล ทั้วไปเพราะมีขนาดใหญ่ และมีความยาวคลื่นมากกว่าปกติมาก เมื่อสึนามิมา เหมือนกับว่าน้ำนั้นจะลดระดับอย่างรวดเร็ว และชับพลัน คลื่นน้ำก็จะเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และด้วยเหตุนี้ จึงมักเรียกว่าเป็นคลื่นยักษ์สึนามิ โดยความสูงของคลื่น อาจสูงหลายสิบเมตร

แม้ผลกระทบของคลื่นสึนามิ จะรุนแรงขนาดไหน แต่ก็จำกัดอยู่ แค่พื้นที่ชายฝั่ง แต่อำนาจทำลายล้างของมันสามารถกินพื้นที่ได้กว้าง โดยสามารถสร้างผลกระทบต่อทั้งชายฝั่งมหาสมุทร และกินพื้นที่หลายกิโลเมตร

คลื่นสึนามิในมหาสมุทรอินเดีย ค.ศ. 2004 เป็นหนึ่งในภัยธรรมชาติครั้งที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ โดยมีผู้เสียชีวิตกว่า 230,000 คน ใน 14 ประเทศที่ติดกับมหาสมุทรอินเดีย โดยที่บ้านเรา ก็ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ทางภาคใต้ของไทย และมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก

ธรรมชาติเอาคืน

ภูเขาไฟระเบิด

ภูเขาไฟ มักเกิดขึ้น ใกล้กับแนวรอยต่อ ระหว่างแผ่นเปลือกโลก 2 แนว การเกิด ภูเขาไฟระเบิด เป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติ ที่ร้ายแรง ที่ส่งผลกระทบ กับชีวิต และความเป็นอยู่ของผู้คนอย่างมาก การระเบิดของ ภูเขาไฟ แสดงให้เห็นว่า ใต้เปลือกโลกลงไป มีความร้อนสะสมอยู่มาก

ภูเขาไฟ เกิดจากการเคลื่อนตัวของ Magma ที่อยู่ใต้เปลือกโลก ดันขึ้นสู่ผิวเปลือกโลก ทำให้มีการเปลี่ยนแปลง ทางกายภาพ และทางเคมี ภายในเปลือกโลกขึ้น ความรุนแรง ขึ้นอยู่กับปัจจัยทางกายภาพต่าง ๆ ใต้เปลือกโลก

เวลาภูเขาไฟระเบิดนั้น นอกจาก Magma หรือ ลาวา แล้ว ยังมีไอน้ำ ก๊าซ ฝุ่นผงเถ้าถ่านต่าง ๆ ออกมาด้วย พวกไอน้ำจะนำเอา ฝุ่นละออง เถ้าต่าง ๆ ที่ตกลงมาด้วยกัน จำนวนมาก ไหลบ่ากลายเป็นโคลน ท่วมภูเขาลงไป ปะปนกับ ลาวา สร้างความเสียหาย ต่อชีวิตและ ทรัพสินอย่างมหาศาล

และอาจเกิดไฟป่าขึ้น ก็จะทวีคูณความวิบัตขึ้นไปอีก เถ่าถ่านที่ลอยขึ้น จะปกคลุมเป็นวงกว้าง เป็นมลพิษทางอากาศ

จากบทความข้างต้น จะเห็นได้ว่า ภัยพิบัตส่วนหนึ่งเกิดจากน้ำมือมนุษย์ อีกส่วนเกิดจาก ธรรมชาติ ถ้าเราเรียนรู้ การอยู่กับธรรมชาติ ได้อย่างสมดุล เราก็จะอยู่อย่างมีความสุข หาก เรา ทํา ลาย ธรรมชาติ ธรรมชาติก็จะ ทํา ลาย เรา

by : ตุ๊กตุ๊กตุ๊ก