ดูแลสุขภาพฟัน รวมวิธีการดูแลปัญหาเกี่ยวกับเรื่องในช่องปาก เรื่องที่ทุกคนควรรู้

ดูแลสุขภาพฟัน

ดูแลสุขภาพฟัน เรื่องราวไทม์ไลน์ ของโรคเกี่ยวกับเหงือกและฟัน จะมีอะไรบ้าง ?

ดูแลสุขภาพฟัน สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เราก็จะมาพูดถึง เรื่องเกี่ยวกับฟันของเรากันค่ะ โดยมันเป็นเรื่องที่หลาย ๆ คนควรจะรู้ เพราะว่าเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมาก ๆ เราไปเริ่มกันที่โรคเกี่ยวกับฟัน กันเลยดีกว่า

ไทม์ไลน์ของความเป็นไป ของโรคเหงือก ที่เกี่ยวข้องกับ การดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน นั้นจะมีอะไรบ้าง และราคาค่าทำฟัน ก็เป็นราคาคร่าว ๆ เนื่องจากรายละเอียด ของแต่ละที่นั่นก็มีราคา ที่แตกต่างกัน 

ราคาจึงอาจจะไม่เท่ากัน เริ่มจากเหงือกและฟัน หรือเจาะจงที่ วิธีดูแลฟันให้แข็งแรง ถ้าเราดูแลฟันและปากให้ดี โดยการแปรงฟันให้ถูกวิธี ด้วย วิธีดูแลสุขภาพของเหงือกและฟัน 5 วิธี ที่ถูกต้อง 

ไม่ว่าจะเป็น ใช่ไหมขัดฟันทุกครั้ง หลังอาหาร และคอยไปหาหมอฟัน เพื่อตรวจฟันเป็นระยะ ถ้าพบปัญหาฟันและเหงือก ก็รีบแก้ไขขั้นตอนนี้ จะเสียค่ารักษาค่าแปรง ค่าอุปกรณ์ประมาณหลักร้อย ถึงหลักพันในการดูแลฟัน 

แต่ถ้าเราดูแลทำความสะอาดไม่เพียงพอ ก็เกิดโรคฟัน ฟันไม่แข็งแรง ผุง่าย และเหงือกได้ เรามาดูโรคฟันกันก่อน โรคฟันส่วนใหญ่ก็จะเป็นฟันผุ เมื่อเกิดฟันผุแล้ว ก็รีบไปอุดฟัน ขั้นตอนนี้จะมีค่าใช้จ่าย อุดฟันหลักร้อยถึงหลักพันบาท 

แต่ถ้าปล่อยให้รูฟันผุ ใหญ่ขึ้นราคาอุดฟัน ก็จะแพงขึ้นนั่นเอง ถ้าปล่อยให้รูฟันผุ ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จนฟันผุทะลุโพรงประสาทฟัน ซึ่งอาจจะมีอาการปวดฟัน หรือไม่มีอาการปวดฟัน ถ้าจะเก็บฟันซี่นี้ไว้ จะต้องรักษารากฟัน 

ดูแลสุขภาพฟัน

ใส่เดือยใส่ครอบ ซึ่งขั้นตอนนี้จะเสียค่าใช้จ่ายหลักหมื่น แต่ถ้าไม่รักษารากฟัน เลือกที่จะถอนฟัน ก็ต้องเสียค่าทำฟันปลอม ซึ่งมีราคาค่าทำฟันปลอม หลักพันถึงหลักหมื่น ซึ่งการใช้งานก็ไม่ดีได้เท่าฟันธรรมชาติ 

แต่ถ้าเลือกที่จะไม่ใส่ฟันปลอม ผลที่ตามมาก็คือ จะมีฟันซี่ข้างเคียงล้ม ฟันคู่สบยื่นยาว การเคี้ยวอาหารไม่สะดวก ไม่ละเอียดเหมือนเดิม ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคกระเพาะตามมา อาจจะเสียเงินค่ารักษา 

โรคกระเพาะหลักพันถึงหลักหมื่น ต่อไปมาดูโรคเหงือกกัน ถ้าเรามีหินปูนสะสมเยอะประมาณนึง จะเกิดโรคเหงือกอักเสบ ถ้าไปขูดหินปูน จะเสียค่าขูดหินปูน หลักร้อยถึงหลักพัน หลังจากขูดหินปูนแล้ว เหงือกที่อักเสบ ก็จะกลับมาเป็นปกติ 

แต่ถ้าเราเลือกที่จะ ไม่ไปขุดหินปูน ปล่อยให้หินปูนสะสมเยอะ ๆ นานเข้าก็จะเกิด โรคปริทันต์หรือโรครํามะนาด ซึ่งตัวหินปูและเชื้อโรคในหินปูน จะไปละลายการรองรับรากฟัน ทำให้ฟันโยก ขั้นตอนนี้ถ้ารักษาโรคปริทันต์ 

จะเสียค่ารักษาหลักพันถึงหลักหมื่น ซึ่งผลการรักษาอาจจะไม่เหมือนเดิม ฟันที่โยกแล้วก็อาจจะไม่กลับมาแน่นเหมือนเดิม เนื่องจากกระดูกที่รองรับรากฟัน ละลายไปแล้วละลายไปเลย หรือถ้าเลือกที่จะไม่รักษา 

โรคปริทันต์หรือรำมะนาดแล้ว ต่อไปฟันก็จะโยกปวด และอาจจะหลุดเองได้ ซึ่งก็จะต้องกลับไปทำฟันปลอม ที่จะต้องใช้ในการเคี้ยวอาหาร โดยค่าใช้จ่ายค่าทำฟันปลอมนี้ ก็จะอยู่ที่หลักพันถึงหลักหมื่น หรือถ้าไม่ใส่ฟันปลอม ก็จะไม่มีฟันเคี้ยวอาหาร 

ดูแลสุขภาพฟัน การดูแลฟันที่ดี นั้นทำได้อย่างไรบ้าง

จะเห็นได้ว่า ถ้าเราเข้าใจการ การดูแลรักษาฟันผุ ก็จะฟันไม่ผุ ไม่ต้องเสียเงินค่าอุดฟัน ถ้ามีหินปูนไม่เยอะ ก็ไม่ต้องขูดหินปูนบ่อย ๆ และถ้าไม่ได้ถอนฟัน หรือว่าฟันไม่หลอ ก็ไม่จำเป็นต้องใส่ฟันปลอม 

แค่นี้ก็ประหยัดเงินประหยัดเวลาได้เยอะเลย การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก มีอะไรบ้าง เพื่อดูแลช่องปากให้ถูกวิธี ใช้ไหมขัดฟันทุกครั้งหลังอาหาร ไปหาหมอฟันเพื่อตรวจฟัน ทุกหนึ่งเดือนหรือหนึ่งปี 

ถ้าพบปัญหาโรคฟัน ก็รีบแก้ไขก่อนที่ปัญหานั้น จะใหญ่เกินไป เพียงเท่านี้เราก็จะไม่ต้อง เสียเงินเสียเวลาไปรักษาฟัน โดยที่ไม่จำเป็นกันแล้ว ฟังดูแล้วเหมือนจะทำยาก แต่ก็มีหลายท่านที่ สามารถทำได้ 

ซึ่งการหาข้อมูล สำหรับดูแลรักษาฟัน ดูแลสุขภาพฟัน ในสมัยนี้ก็หาได้ไม่ยาก ไม่ว่าจะเป็น การค้นหา การดูแลสุขภาพช่องปาก pdf แล้วมาพรินต์แปะไว้ที่บ้าน หรือดูในมือถือ การดูแล รักษาฟัน ป. 3 แล้วลองปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด 

ด้วยความที่ว่า ฟันเป็นอวัยวะในร่างกาย ที่มีความแตกต่างจากอวัยวะอื่น เนื่องจากไม่สามารถซ่อมแซมตัวเองได้ การเริ่มต้นป้องกันให้ฟัน อยู่กับเราได้นาน ๆ เริ่มต้นง่าย ๆ จากมือเราเอง โดยที่เราจะต้องเลือก อุปกรณ์ที่จะใช้ ทำความสะอาด ฟันและเหงือกให้ถูกต้อง 

วิธีดูแลสุขภาพของเหงือกและฟัน 5 วิธี

ดูแลสุขภาพฟัน กรณีของคนทั่วไป ที่มีภาวะการเร่งตัวของฟัน ที่ปกติก็สามารถ ใช้แปรงปกติธรรมดาได้เลย ด้วยแปรงที่มีหน้าปัดตรง ผิวแปรงเรียบขนแปรงนุ่ม หรือว่าแปรงธรรม ๆ ทั่วไปนี่แหละ ซึ่งราคาค่อนข้างถูก 

ไม่ต้องเป็นแปรงที่พิเศษแต่อย่างใด ส่วนแปรงที่มีรูปร่างพิเศษ ที่ไม่ได้มีหน้าตัดตรง ก็จะเหมาะกับคนบางประเภท เช่น ฟันที่มีลักษณะการเรียง ที่ไม่ปกติมีการซ้อนไปซ้อนมา ขนแปรงพวกนั้น ก็จะถูกออกแบบเข้าไป ทำความสะอาดในจุดเหล่านั้นได้ดีขึ้น 

ถามว่าใช้ได้ไหม ก็ใช้ได้แต่ก็แลกมาด้วย ค่าใช้จ่ายที่สูงเพิ่มเติมนิดนึง ต่อมาก็จะเป็นส่วนของแปรงไฟฟ้า ที่หลาย ๆ ท่านก็อาจจะรู้สึกว่า จริง ๆ แล้วเนี่ยมันดี จริง ๆ แล้วแปรงไฟฟ้าเนี่ย ธรรมชาติของเขาเนี่ย จะมีความแข็งหน่อย 

แต่ก็ไม่สามารถที่จะแปรง บริเวณขอบเหงือกได้ เนื่องจากแปรงแล้ว เราก็อาจจะรู้สึกเจ็บได้ และแปรงชนิดนี้ ก็ไม่จำเป็นสักเท่าไหร่ ถ้าหากเราสามารถ ขับแปรงด้วยมือของเราเองได้ ก็ใช้แค่แปรงธรรมดาก็พอครับ 

ส่วนของไหมขัดฟัน ก็จะเป็นอีกตัวนึง ที่เราจำเป็นต้องใช้เหมือนกัน เพราะสามารถที่จะแปรงเฉพาะด้าน ที่เราสามารถสัมผัสได้ อย่างเช่นด้านนอกด้านใน

และก็ด้านบดเคี้ยวของฟัน แต่ส่วนที่ฟันมาชนกัน ก็ไม่สามารถใช้แปรงเข้าไปสัมผัสได้ เพราะฉะนั้นไหมขัดฟันจะมี บทบาทหน้าที่สำคัญตรงนี้

การดูแลสุขภาพช่องปากใน แต่ละช่วงวัย การเลือกยาสีฟันที่ดีนั้น เป็นอย่างไร 

คุณสมบัติที่ เราต้องการของยาสีฟัน ในระดับพื้นฐาน ก็คือฟลูออไรด์ผสมอยู่นั่นเอง ปริมาณของฟลูออไรด์ ที่เป็นมาตรฐานเลย ก็คือ 1,000 PPM แล้วก็อีกอย่างนึงก็คือ ยาสีฟันที่มีผงขัด ที่ค่อนข้างละเอียดหน่อย 

เนื่องจากผงขัดในยาสีฟันจะช่วยให้เรา ทำความสะอาดฟันได้ดีขึ้น แต่ว่าถ้าผงขัดหยาบจนเกินไป ก็จะทำให้ฟันเรา สึกได้เร็วขึ้น โดยที่เราสามารถ ทดสอบด้วยมือของเราเองได้ หากเราสัมผัสได้ด้วยนิ้ว ก็ถือว่าละเอียดมากแล้ว 

ส่วนยาสีฟันที่มีความพิเศษ ดูแลสุขภาพฟัน อย่างเช่นยาสีฟัน ที่ลดอาการเสียวฟัน ยาสีฟันที่ช่วยเรื่องเหงือก อย่างเช่น ยาสีฟันลดอาการเสียวฟัน ยาสีฟันที่ช่วยเรื่องเหงือก ยาสีฟันที่ช่วยทำให้ฟัน ของเราขาวขึ้น

ถามว่ามีความจำเป็นไหม ตอบตามตรงเลยว่า ไม่มีความจำเป็นเท่าไหร่ คุณลองสังเกตตัวเอง ง่าย ๆ นะครับถ้าเกิดคุณ มีอาการเสียวฟันแล้วเนี่ย สาเหตุมันมีอยู่นะครับ อย่างเช่นมีภาวะเหงือกร่นลงไปแล้วหรือมีภาวะฟันสึก 

หรืออาจจะมีฟันผุก็ได้ ยาสีฟันพวกนี้ก็จะช่วยได้ แต่ว่าจริง ๆ แล้วสาเหตุมันยังไม่ถูกแก้ จริง ๆ แล้วควรที่จะไปพบทันตแพทย์ก่อน ว่าความจริงแล้ว สาเหตุของอาการเสียวฟันของเรา ความจริง มันเกิดจากอะไร 

วิธีดูแลฟันให้แข็งแรง

ดูแลสุขภาพฟัน การแปรงฟันที่ถูกต้อง เริ่มต้นจากการ วางแปรงสีฟันให้ถูกต้องก่อน ไม่ใช่ว่าการแปรงฟัน จะแปรงแค่ฟันอย่างเดียวนะครับ เราต้องแปรงบริเวณคอฟัน แล้วก็ขอบเหงือกของเราด้วย เริ่มต้นจากการวางแปลงให้ถูกต้องก่อนนะครับ 

โดยวางแปรงให้ขนแปรง ทำมุม 45 องศากับฟัน เสร็จแล้วนะครับ พอได้มุมที่ถูกต้องปั๊บนะครับ สังเกตว่าจะเห็นว่า ตัวแปรงจะสัมผัส ทั้งคอฟันแล้วก็เหงือกนะครับ

เสร็จแล้วเราก็ทำการขยับนะครับ เบา ๆ ช้า ๆ ประมาณ 10 ถึง 15 ครั้ง แล้วปัดขึ้นสำหรับฟันล่าง สำหรับฟันบน ก็จะปัดลงแทนนะครับ 

ก็ค่อย ๆ ทำอย่างนี้นะครับไปเรื่อย ๆ ปัดขึ้นปัดขึ้น แบบนี้นะครับ พอเราวางแปลงถูกต้องปุ๊บ เราก็จะต้องแปรงให้ทั่วทั้งปากนะครับ ควรจะมีการแปรงอย่างเป็นระบบ อย่างเช่นเราเริ่มจากด้านนอกด้านซ้าย 

ก็ค่อย ๆ แปรงไล่จากด้านซ้าย ค่อย ๆ มาทางด้านหน้านะครับ ไปทางด้านขวา อันนี้คือเราแปรงเสร็จด้านนอกแล้ว เราก็จะไม่หลงลืมซี่ไหนไปนะครับ พอแปรงด้านนอกเสร็จปุ๊บ มาด้านบดเคี้ยวครับ ค่อย ๆ แปรงไล่จากด้านขวาก็ได้ครับ 

ให้มันต่อเนื่องจากด้านนอก จากซ้ายมาขวา แล้วก็จากขวามาซ้ายอีกทีหนึ่ง เพื่อให้ด้านบดเคี้ยวของเรา ถูกแปรงได้ทั้งหมด โดยที่ในวัยเรียน เป็นวัยที่ควรเริ่มต้น สอนวิธีดังกล่าวมากที่สุด ซึ่งสุขภาพของปาก กรมอนามัย ก็ล้วนมีความเกี่ยวข้อง และสัมพันธ์กันทั้งสิ้น

หากใครที่ชอบบทความเกี่ยวกับ เกร็ดความรู้ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ดูแลสุขภาพฟัน ความรู้รอบตัว ความรู้เรื่องต่าง ๆ รวมถึงเรื่องของ สาระน่ารู้สุขภาพ ทางเว็บไซต์ของเรา ได้มีบทความดี ๆ มากมายให้ทุกคนได้อ่านกัน รับรองว่าได้ความรู้แน่น ๆ เลย

ชาเย็นสีส้ม